...แย้มบัวบาน ใต้ร่มสีชมพู 70 ปีแห่งความสำเร็จ...
“เวลา” ช่างเหมือนกับสายน้ำเหลือเกิน ไหลเคลื่อนละเรื่อยไปไม่เคยหยุดนิ่ง สายน้ำแท้จริงแล้วมีมากมายในโลก อย่างไรก็ตามแม้จะได้ชื่อว่าเป็นสายน้ำเหมือนกัน ทว่ากลับไหลเร็วไม่เท่ากัน สำหรับธารน้ำแห่งนี้ความเร็วของมันกลับคงที่ตลอดเวลาไม่เคยเปลี่ยนแปลง จะผิดแปลกไปก็ต่อเมื่อความรู้สึกของเราเพิ่มหรือชะลอความเร็วของมันเท่านั้น และในทางที่น้ำไหลผ่าน บางครั้งมันได้ทิ้งร่องรอยไว้กับผืนดินที่รองรับมันด้วย ร่องรอยที่ว่านี้มันช่างเหมือนกับรอยแห่งอดีตเสียจริง มันยังคงมีให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้และจะประดับอยู่ตรงนั้นตลอดไป เฉกเช่นเดียวกับความทรงจำที่มนุษย์อย่างเราสรรสร้างขึ้นมา ประวัติและเหตุการณ์ต่างๆมากมาย ได้ถูกบันทึกไว้ในสมุดเล่มใหญ่ที่สุด มีความซับซ้อนมากที่สุด ทำให้เรามิอาจคาดเดาได้ว่าหน้าต่อไปของสมุดจะมีสิ่งใดปรากฏอยู่ “สมุดของเวลาและความทรงจำ” แต่สิ่งต่างๆ มิอาจอยู่ได้อย่างยั่งยืนถาวร การที่บางอย่างจะถูกลบเลือนหายไปจึงเป็นเรื่องปกติทั่วไป เว้นแต่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งสำคัญ ยากยิ่งที่จะลืมเลือนดั่งเช่นประวัติของโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ได้รับการยอมรับว่ายอดเยี่ยมที่สุดในประเทศไทย “โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา”
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเดิมชื่อ “โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ตั้งอยู่ที่ถนนพญาไท ติดกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถูกก่อตั้งขึ้นโดยคณะท่านหม่อมหลวงปิ่น มาลากุลเมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ.2480 ผู้อำนวยการคนแรกของโรงเรียน เดิมที่โรงเรียนนี้สังกัดอยู่กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและเตรียมนักเรียนแผนกต่างๆไว้สำหรับเข้าศึกษาต่อในคณะต่างๆของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยเฉพาะ ต่อมาได้ถูกโอนไปสังกัดกรมวิสามัญศึกษา และมีระเบียบกำหมดให้นักเรียนที่เรียนจบการศึกษาจากโรงเรียนนี้สอบคัดเลือกเข้าศึกษาในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเช่นเดียวกับนักเรียนชั้นเตรียมอุดมศึกษาของโรงเรียนทั่วไป ทั้งยังได้ตัดว่า “แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ออก คงเหลือคำว่า “โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา” เท่านั้น
ภายใต้ร่มสีชมพูคันนี้ มีภูมิทัศน์โดยรอบงดงามยิ่ง หลายหลากไปด้วยพฤกษานานาพันธุ์ ที่พร้อมใจกันโบกพลิ้วเมื่อต้องสายลม สงบร่มเย็นด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของสัญลักษณ์แห่ง กษัตริยานุสรณ์จุฬาลงกรณ์ และพระปริวรรติเทพผู้สถิตคู่สถาบันนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หากเราลองเยื้องย่างเข้ามาภายในรั้วแห่งนี้ เราจะพบกับสระบัวขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยดอกบัวมากมาย ดอกใหญ่บ้างเล็กบ้าง หุบบานคละกันไป ศิษย์เตรียมอุดมศึกษาเปรียบได้กับบัวในสระ ที่แม้ว่าจะต่างกันเพียงไร ก็อยู่ในสระเดียวกัน เติบโตขึ้นมาร่วมกันและคอยปกป้องซึ่งกันและกัน เหมือนกับสายสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง เพื่อนกับเพื่อน ที่สานกันอย่างแน่นแฟ้นและมั่นคง แล้วสายสัมพันธ์เหล่านี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร คำว่า “เวลา” คงไม่เพียงพอกับการสร้างสิ่งนี้เป็นแน่
เวียนมาบรรจบครบ 70 ปี ประเพณีต่างๆในรั้วจามจุรียังคงเป็นดั่งเช่นวันก่อน “การรับน้อง” ดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่รุ่นพี่ตั้งหน้าตั้งตาคอยมากที่สุด “การรับน้อง”เป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง โดยมีกิจกรรมกลุ่มเป็นสื่อกลาง ทำให้รุ่นพี่และรุ่นน้องมีโอกาสได้สนทนา แลกเปลี่ยนทรรศนะ ตลอดจนให้ความช่วยเหลือแก่กันและกันตามสมควร ซึ่งจะมีรูปแบบของกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไปตามห้องและสายวิชา นอกจากกิจกรรม “รับน้อง” แล้ว “กีฬาสี” ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยสอนให้นักเรียนรู้จักการคิดวางแผน มีความเป็นผู้นำ และสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสม ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ อีกด้วย
เมื่อได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ย่อมมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง นั่นคือ “มีความเป็นเลิศทางวิชาการและคุณธรรม” ซึ่งได้แสดงให้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคมมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว จนกระทั่งวันนี้ กาลเวลาได้ล่วงเลยมาถึง 70 ปีแล้ว โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษายังคงยืนหยัดและมั่นคงดุจต้นไม้ใหญ่ ที่แตกกิ่งก้านสาขาด้วย “วิถีแห่งเตรียมอุดม” อันงดงามเป็นหนึ่งเดียว...วันนี้แม้ว่าเราจะเป็นเพียงดอกบัวตูม แต่ซักวันหนึ่งเมื่อถึงเวลาเราก็พร้อมที่จะเบ่งบานอย่างสง่างามด้วยศักดิ์ศรีแห่งเตรียมอุดม
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเดิมชื่อ “โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ตั้งอยู่ที่ถนนพญาไท ติดกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถูกก่อตั้งขึ้นโดยคณะท่านหม่อมหลวงปิ่น มาลากุลเมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ.2480 ผู้อำนวยการคนแรกของโรงเรียน เดิมที่โรงเรียนนี้สังกัดอยู่กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและเตรียมนักเรียนแผนกต่างๆไว้สำหรับเข้าศึกษาต่อในคณะต่างๆของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยเฉพาะ ต่อมาได้ถูกโอนไปสังกัดกรมวิสามัญศึกษา และมีระเบียบกำหมดให้นักเรียนที่เรียนจบการศึกษาจากโรงเรียนนี้สอบคัดเลือกเข้าศึกษาในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเช่นเดียวกับนักเรียนชั้นเตรียมอุดมศึกษาของโรงเรียนทั่วไป ทั้งยังได้ตัดว่า “แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ออก คงเหลือคำว่า “โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา” เท่านั้น
ภายใต้ร่มสีชมพูคันนี้ มีภูมิทัศน์โดยรอบงดงามยิ่ง หลายหลากไปด้วยพฤกษานานาพันธุ์ ที่พร้อมใจกันโบกพลิ้วเมื่อต้องสายลม สงบร่มเย็นด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของสัญลักษณ์แห่ง กษัตริยานุสรณ์จุฬาลงกรณ์ และพระปริวรรติเทพผู้สถิตคู่สถาบันนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หากเราลองเยื้องย่างเข้ามาภายในรั้วแห่งนี้ เราจะพบกับสระบัวขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยดอกบัวมากมาย ดอกใหญ่บ้างเล็กบ้าง หุบบานคละกันไป ศิษย์เตรียมอุดมศึกษาเปรียบได้กับบัวในสระ ที่แม้ว่าจะต่างกันเพียงไร ก็อยู่ในสระเดียวกัน เติบโตขึ้นมาร่วมกันและคอยปกป้องซึ่งกันและกัน เหมือนกับสายสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง เพื่อนกับเพื่อน ที่สานกันอย่างแน่นแฟ้นและมั่นคง แล้วสายสัมพันธ์เหล่านี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร คำว่า “เวลา” คงไม่เพียงพอกับการสร้างสิ่งนี้เป็นแน่
เวียนมาบรรจบครบ 70 ปี ประเพณีต่างๆในรั้วจามจุรียังคงเป็นดั่งเช่นวันก่อน “การรับน้อง” ดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่รุ่นพี่ตั้งหน้าตั้งตาคอยมากที่สุด “การรับน้อง”เป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง โดยมีกิจกรรมกลุ่มเป็นสื่อกลาง ทำให้รุ่นพี่และรุ่นน้องมีโอกาสได้สนทนา แลกเปลี่ยนทรรศนะ ตลอดจนให้ความช่วยเหลือแก่กันและกันตามสมควร ซึ่งจะมีรูปแบบของกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไปตามห้องและสายวิชา นอกจากกิจกรรม “รับน้อง” แล้ว “กีฬาสี” ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยสอนให้นักเรียนรู้จักการคิดวางแผน มีความเป็นผู้นำ และสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสม ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ อีกด้วย
เมื่อได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ย่อมมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง นั่นคือ “มีความเป็นเลิศทางวิชาการและคุณธรรม” ซึ่งได้แสดงให้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคมมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว จนกระทั่งวันนี้ กาลเวลาได้ล่วงเลยมาถึง 70 ปีแล้ว โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษายังคงยืนหยัดและมั่นคงดุจต้นไม้ใหญ่ ที่แตกกิ่งก้านสาขาด้วย “วิถีแห่งเตรียมอุดม” อันงดงามเป็นหนึ่งเดียว...วันนี้แม้ว่าเราจะเป็นเพียงดอกบัวตูม แต่ซักวันหนึ่งเมื่อถึงเวลาเราก็พร้อมที่จะเบ่งบานอย่างสง่างามด้วยศักดิ์ศรีแห่งเตรียมอุดม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น