สีสันแห่งเตรียมอุดม ช่วงเวลาแห่งความทรงจำ
เมื่อเดือนตุลาคม ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนผ่านพ้นไป ก็ถึงคราวที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาจะเบ่งบานด้วยสีสันของการแข่งขันกีฬาประจำปี นักเรียนทุกคนไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ ต่างมีความกระตือรือร้นในการเตรียมตัวสำหรับงานที่กำลังจะมาถึง และนั่นรวมถึงตัวผมเองด้วย
“กีฬาสี” กิจกรรมที่มิได้มีเพียงแต่การแข่งขันกีฬา หากแต่หลายหลากด้วยรูปแบบสีสันของเหล่าคณะเชียร์ ผนวกกับความสวยงามและความพร้อมเพรียงของขบวนพาเหรด สิ่งเหล่านี้ล้วนสร้างความรู้สึกประทับใจให้แก่เหล่าผู้มาเยือนทั้งหลาย ซึ่งเบื้องหลังของความยิ่งใหญ่ตระการตานี้ แท้จริงแล้วต้องถูกแลกมาด้วยเวลาอันมีค่า หยาดเหงื่อและแรงกายหรือแม้กระทั่ง...น้ำตา
กองเชียร์หรือเรียกอย่างหรูๆว่าสแตนด์ เป็นนักเรียนชั้น ม.4 โดยส่วนใหญ่ของตึก 9 ที่ต้องทำการซักซ้อมทุกๆเที่ยงก่อนรับประทานอาหารกลางวันและหลังเลิกเรียน เท่าที่ข้าพเจ้าจำความได้นั้น มันช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าเบื่อเกินบรรยายจริงๆ รุ่นพี่ทุกคนต่างเคร่งครัดกับการฝึกซ้อมมาก การถูกดุจึงถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งในช่วงแรกๆนั้นข้าพเจ้ารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเพราะกิจกรรมเหล่านี้มาเบียดบังเวลาเรียนของข้าพเจ้า แต่เมื่อข้าพเจ้าลองนั่งคิดตริตรองดูแล้ว จึงรู้ว่าข้าพเจ้ายังไม่เข้าใจแม้แต่จุดประสงค์ของกิจกรรมเหล่านี้เลย กีฬาสีมิใช่เพียงแค่เหตุการณ์ที่จะผ่านไปในวันหนึ่งๆเท่านั้น มันเป็นเหมือนแบบทดสอบแสนยากสำหรับนักเรียนทุกคนหากต้องทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว เพราะมันไม่สามารถถูกขีดเขียนหรือลบได้ด้วยอุปกรณ์การเขียนใดๆ มีเพียงความเสียสละ ความมานะอดทนและความสามัคคีเท่านั้นที่จะแต่งแต้มมันให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เริ่มต้นมาจากตัวเราเอง เมื่อข้าพเจ้าคิดได้เช่นนี้แล้ว จึงตั้งใจฝึกซ้อมอย่างแข็งขัน ไม่บ่นกระปอดประแปดและตรงต่อเวลาทุกครั้งเท่าที่เวลาเรียนจะเอื้ออำนวย เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตน
มันเป็นความภาคภูมิใจสำหรับข้าพเจ้าในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะเชียร์สีบานเย็น และในฐานะที่เป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ที่ได้ทำหน้าที่ของตนอย่างดีที่สุดแล้ว แม้ว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังก็ตาม
“กีฬาสี” กิจกรรมที่มิได้มีเพียงแต่การแข่งขันกีฬา หากแต่หลายหลากด้วยรูปแบบสีสันของเหล่าคณะเชียร์ ผนวกกับความสวยงามและความพร้อมเพรียงของขบวนพาเหรด สิ่งเหล่านี้ล้วนสร้างความรู้สึกประทับใจให้แก่เหล่าผู้มาเยือนทั้งหลาย ซึ่งเบื้องหลังของความยิ่งใหญ่ตระการตานี้ แท้จริงแล้วต้องถูกแลกมาด้วยเวลาอันมีค่า หยาดเหงื่อและแรงกายหรือแม้กระทั่ง...น้ำตา
กองเชียร์หรือเรียกอย่างหรูๆว่าสแตนด์ เป็นนักเรียนชั้น ม.4 โดยส่วนใหญ่ของตึก 9 ที่ต้องทำการซักซ้อมทุกๆเที่ยงก่อนรับประทานอาหารกลางวันและหลังเลิกเรียน เท่าที่ข้าพเจ้าจำความได้นั้น มันช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าเบื่อเกินบรรยายจริงๆ รุ่นพี่ทุกคนต่างเคร่งครัดกับการฝึกซ้อมมาก การถูกดุจึงถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งในช่วงแรกๆนั้นข้าพเจ้ารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเพราะกิจกรรมเหล่านี้มาเบียดบังเวลาเรียนของข้าพเจ้า แต่เมื่อข้าพเจ้าลองนั่งคิดตริตรองดูแล้ว จึงรู้ว่าข้าพเจ้ายังไม่เข้าใจแม้แต่จุดประสงค์ของกิจกรรมเหล่านี้เลย กีฬาสีมิใช่เพียงแค่เหตุการณ์ที่จะผ่านไปในวันหนึ่งๆเท่านั้น มันเป็นเหมือนแบบทดสอบแสนยากสำหรับนักเรียนทุกคนหากต้องทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว เพราะมันไม่สามารถถูกขีดเขียนหรือลบได้ด้วยอุปกรณ์การเขียนใดๆ มีเพียงความเสียสละ ความมานะอดทนและความสามัคคีเท่านั้นที่จะแต่งแต้มมันให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เริ่มต้นมาจากตัวเราเอง เมื่อข้าพเจ้าคิดได้เช่นนี้แล้ว จึงตั้งใจฝึกซ้อมอย่างแข็งขัน ไม่บ่นกระปอดประแปดและตรงต่อเวลาทุกครั้งเท่าที่เวลาเรียนจะเอื้ออำนวย เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตน
มันเป็นความภาคภูมิใจสำหรับข้าพเจ้าในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะเชียร์สีบานเย็น และในฐานะที่เป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ที่ได้ทำหน้าที่ของตนอย่างดีที่สุดแล้ว แม้ว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังก็ตาม
1 ความคิดเห็น:
แนว่าฉันรู้สึกดีมักกกับกีฬาสี ผดุงปัญญา ฉันได้มิตรภาพ ความเสียสละ อดทน พร้อมด้วยความสามัคคี นั่นคือสิ่งที่หาไม่ได้จากการเรียนนะ เราเป็นเพื่อนกันตลอดไปนะ 301*52< หวานจอมเฟี้ยว > เตรียมอุดมมหิดลเราจะต้องเจอกันแน่นะ555+
แสดงความคิดเห็น